อยู่ริมแม่น้ำป่าสักทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามเกาะเมือง เมื่อออกจากวัดใหญ่ชัยมงคลถึงถนนใหญ่แล้วเลี้ยวซ้าย วัดนี้เป็นวัดที่มีมาก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยาไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง มีพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานในพระวิหาร นั้นชื่อ “พระเจ้าพนัญเชิง” ในปี พ.ศ 2397 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบูรณะใหม่ทั้งองค์ และถวายพระนามว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “หลวงพ่อโต” นับเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่มีอายุมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตักกว้าง 20.17 เมตร และสูงจากชายพระชงฆ์ถึงพระรัศมี 19 เมตร ชาวจีนนิยมเรียกว่า ซำปอกง (ผู้คุ้มครองการเดินทางทางทะเล)

 วัดพนัญเชิงวรวิหาร

วัดพนัญเชิงวรวิหารวัดพนัญเชิงวรวิหารวัดพนัญเชิงวรวิหารวัดพนัญเชิงวรวิหารวัดพนัญเชิงวรวิหารวัดพนัญเชิงวรวิหาร

วัดพนัญเชิงวรวิหาร

        เบื้องหน้ามีตาลปัตรหรือพัดยศ และพระอัครสาวกที่ทำด้วยปูนปั้นลงรักปิดทองประดิษฐานอยู่เบื้องซ้ายและขวาบริเวณริมแม่น้ำยังมี ตึกเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ก่อสร้างเป็นตึกแบบจีนเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมากในเครื่องแต่งกายแบบจีน ชาวจีนเรียกว่า “จูแซเนี๊ย” เป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนทั่วไป ใกล้กันมี วิหารเซียน เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้น ท้าวจตุรโลกบาล เทพผู้คุ้มครองทั้ง 12 นักษัตร และเทพเจ้าต่างๆ

อ้างอิง : คู่หูเดินทาง