นานาประเทศมากกว่า 40 ชาติ มูลนิธิภาคเอกชน และกลุ่มบริษัทต่างๆ ร่วมบริจาคเงิน มากกว่า 11,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านสหประชาชาติ เพื่อใช้เป็นกองทุนต่อสู้ภัยระบาดของเอดส์ วัณโรค และไข้มาลาเรีย…
นายบัน กี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ประกาศระหว่างการประชุมระยะเวลา 2 วัน ที่มหานครนิวยอร์ก ระบุว่า นานาประเทศมากกว่า 40 ชาติ รวมทั้งมูลนิธิภาคเอกชน และกลุ่มบริษัทต่างๆในหลายประเทศ ตกลงใจร่วมบริจาคเงินรวมมากกว่า 11,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านสหประชาชาติใช้ต่อสู้ภัยระบาดของเอดส์ วัณโรค และไข้มาลาเรีย ตลอดช่วง 3 ปี ตั้งแต่ปีหน้า 2554 ถึงปี 2556 ภายใต้ชื่อกองทุนต่อสู้เอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย เฉพาะรัฐบาลสหรัฐฯให้คำมั่นบริจาค 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ทั่วโลกคาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอดส์มากกว่า 5.2 ล้านคน รายงานของสหรัฐฯ ระบุ แต่ละปีมีผู้ป่วยเอดส์สตรีตั้งครรภ์ภายในประเทศ 610,000 ราย ส่วนผู้ป่วยวัณโรคเข้ารับการรักษาเฉลี่ยปีละ 3.9 ล้านคน ขณะที่ผู้ป่วยไข้มาลาเรียทั่วโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากตัวเลขเมื่อปี 2552 อยู่ที่ 34 ล้านคน ขยับขึ้นถึงกว่า 110 ล้านคน
ออย่างไรก็ตาม ยอดเงินบริจาคเข้ากองทุนนี้ยังไม่ตามเป้าหมาย ซึ่งสหประชาชาติตั้งเป้าเอาไว้ที่ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดี ในความพยายามของประชาคมโลกช่วยกันต่อสู้ปัญหาโรคระบาดร้ายแรง ขณะที่กองทุนนี้สำหรับช่วงปี 2551 – ปี 2553 มีอยู่ราว 9,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะเงินจำนวนนี้จะช่วยผู้ป่วยเอดส์เข้าถึงการบำบัดเยียวยา ได้มากถึง 7 ล้านคน ทั้งช่วยจัดหามุ้งกันยุงให้ผู้คนได้มากกว่า 122 ล้านหลัง เพื่อใช้ป้องกันไข้มาลาเรีย.
อ้างอิง : ไทยรัฐออนไลน์