“ข้าไม่กล้าและไม่มีความตั้งใจจะไปสู้กับแม่ของตัวเอง จะยังไง ก็ขอบคุณสำหรับน้ำชา มันยอดเยี่ยมจริง ๆ ข้าจะกลับแล้ว ไม่ต้องไปส่งข้าแล้ว” พระเจ้ามกจง ตรัส แล้วเสด็จออกไป
“ทำได้แล้วเพคะ” โจซังกุง ทูล พระนางยอนฮึง
“ข้าทำอะไร ข้าเพิ่งวางยาพิษลูกของตัวเองไปนะ” พระนางยอนฮึง ตรัสถึงชาที่พระเจ้ามกจงเสวยไป
“นางมียาแก้พิษนี่เพคะ อีกอย่างนึง มันก็เป็นผลดีกับฝ่าบาทด้วย” โจซังกุง ทูล
“หึ ๆๆ ผลดีเหรอ?”
“ใช่เพคะ ถ้าพระองค์ทำสำเร็จ ฝ่าบาทก็จะได้ไม่ต้องอยู่ใต้เงาของพระพันปีอีกต่อไปแล้ว”
อิลลาทูลพระพันปีชอนชูว่าพระเจ้ามกจงไม่อยู่ในวังหลวง พระพันปีจึงรับสั่งให้ส่งทหารองครักษ์ออกติดตามให้ทั่วเมือง ด้านพระเจ้ามกจง ออกมากับฮอนอูน เมื่อหยุดดูคณะกายกรรม ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาจากฤทธิ์ของฝิ่นในน้ำชา
ฮอนอูนจึงทูลเชิญให้เสด็จกลับวังหลวง ก่อนที่ทุกคนจะรู้
พระเจ้ามกจง กับฮอนอูน ปีนกำแพงวัง เพื่อกลับเข้ามาในวังหลวง จากนั้นก็รีบไปหาซอนจอง ส่วนพระพันปีและพวก เห็นฮอนอูน ยืนทำลับ ๆ ล่อ ๆ ก็เข้าไปคุย
“นี่เจ้า มาทำอะไรตรงนี้ ตอบข้ามาสิ มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้” พระพันปีชอนชู ตรัส
“เอ่อ คือ กระหม่อม ได้ยิน แบบว่า ได้ยินฝ่าบาทหายไป ก็เลยเป็นห่วง”
“นี่เจ้า พระพันปีไม่ได้ถามเรื่องนั้น มีองครักษ์บอกว่าเจ้าแอบออกไปนอกวัง สารภาพมาตามตรงว่าเจ้าออกไปไหนมา ในเวลาแบบนี้เจ้ายังออกไปนอกวังทำไมกันหา?” โทซู ถาม
“เอ่อคือ คือกระหม่อม กระหม่อมแค่อยากดื่มเหล้า”
“ไม่ต้องมาโกหก คืนนี้ในวังก็มีเหล้าให้ดื่ม จะให้ข้าเชื่อเจ้ารึไง?” ยูบัง กล่าว
“แต่ดื่มในวังไม่เหมือนกับออกไปดื่มข้างนอก แค่นั้นพ่ะย่ะค่ะพระพันปี”
“แน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้พาฝ่าบาทออกไปนอกวังด้วย”
“โอย ไม่มีทางเป็นไปได้เลย อย่างข้าจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ ไม่เป็นความจริง ไม่ได้ทำอะไร ๆ”
พระเจ้ามกจงเสด็จออกมา พระพันปีตรัสถามว่าหายไปไหนมา พระเจ้ามกจงจึงทูลว่าออกไปหาเหล้ากิน จากนั้นก็หัวเราะแล้วหมดสติไป เมื่อหมอหลวงมาตรวจอาการก็ไม่สามารถบอกพระพันปีได้ว่าเป็นอะไร เพียงแต่สงสัยว่าพระองค์คงดื่มเหล้ามากไปพักสักหน่อยคงจะดีขึ้น
โจซังกุงนำเรื่องที่พระเจ้ามกจงเสด็จกลับวังหลวงไปแล้วมาทูลพระนางยอนฮึง
“จะไม่มีวันมีใครรู้เรื่องนี้ได้ ถ้าพวกเราไม่พูดมันออกไปเอง”
“แต่ว่า ยานั่นกินครั้งเดียวก็ออกฤทธิ์ขนาดนี้ ตอนนี้พวกเค้าก็คงจะตื่นตัวกันแล้ว ฝ่าบาทจะยังออกมาได้อีกหรือเพคะ”
“เค้าจะต้องฟื้นแน่ ยังไงเค้าก็ต้องฟื้น”
“แต่เรื่องนี้มันจะทำให้เราเสี่ยงมากนะเพคะ หัวใจหม่อมฉันเต้นแรงไม่หยุดเลย”
ชียังไปต้อนรับกองคาราวานของท่านซากามุนกับอีจูจอง ที่กลับมาจากแคว้นต้าเหลียว
“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านเจ้ากรมการคลัง อุตส่าห์ออกมาต้อนรับพวกข้าด้วยตัวเอง รู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนักขอรับ ฮะๆๆๆ”
“ระหว่างทาง พวกเราก็ได้ยินเรื่องการเลื่อนขั้นของท่านแล้ว ยินดีด้วยขอรับ”
“ยินดีด้วยขอรับท่านเจ้ากรม”
“ขอบใจมาก ท่านอีจองจูเอาของไปเก็บแล้วให้ทุกคนออกไปพักผ่อนกันให้เต็มที่เถอะ”
“อึ้ย ได้เลยขอรับ ท่านเจ้ากรม พวกเรา ตามข้ามาทางนี้เลย” พ่อค้ากล่าว
“พระราชาชี่ตัน คิดจะฆ่าพวกเจ้างั้นเหรอ?” ชียัง ถาม
“ขอรับ เค้าโกรธแค้นที่โครยอประกาศเอกราช เลยจะระบายที่พวกข้า ถ้าทกยุนไม่ช่วยไว้เราคงตายหมดแล้ว”
“ข้าได้ข่าวมาว่าสงครามระหว่างโครยอกับชี่ตันใกล้มาทุกทีแล้ว ข่าวนี้เป็นความจริงรึเปล่าหา” ชียัง กล่าว
“พระพันปีเฉิงเทียน เดินทางกลับมาจากทางใต้แล้ว ข้าคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เป็นไปได้มากขอรับ” กามุน กล่าว
“แล้วตอนนี้ทกยุนอยู่ที่ไหน?”
“นางไปเข้าเฝ้าองค์หญิงจั้นหนีแล้ว”
“นางอาจจะนำคำสั่งลับของพระราชาชี่ตันกลับมาด้วย”
“นายท่านไม่ต้องห่วงขอรับ ตอนนี้นางอยู่ในควบคุมของข้าแล้ว”
“ข้าไม่ได้เป็นห่วงนางหรอก แต่ข้าเป็นห่วงองค์หญิงจั้นหนี นางต้องไม่เลิกราง่าย ๆ แน่ บอกให้อีจองจู หาโอกาสคอยจับตานางไว้”
“ขอรับ นายท่าน”
พระพันปีชอนชูกังวลกับพฤติกรรมดื้อรั้นของพระเจ้ามกจง จึงรับสั่งให้พระมเหสีช่วยมีองค์ชายให้เร็ว เพื่อที่ลูกจะได้เปลี่ยนพระเจ้ามกจง เหมือนอย่างที่บิดาของเค้าเคยเปลี่ยนเมื่อตอนมีโอรส
ซอฮุย มาหารือกับกัมชันว่าคิมชียังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายขององค์ชายคองจูหรือไม่
“ข้าสืบไปจนพบว่าพระนางยอนฮึงเคยลองที่จะออกตามหาตัวองค์ชายแทลอง เพื่อที่จะให้องค์ชายได้กลับมาขึ้นครองราชย์ในช่วงที่ท่านอ๋องกำลังประชวรหนัก ตอนนั้นข่าวนี้ก็ได้ รั่วหลุดไปถึงทางฝั่งคนของพระพันปีพอดีด้วย”
“คิดว่า คิมชียังจึงเลือกป้องกันไว้ ด้วยวิธีโหดเหี้ยม” ซอฮุย กล่าว
“ใช่แล้วขอรับ เพราะข้าว่าพระพันปีไม่มีทางที่คิดจะฆ่าองค์ชายแทลองหลานของตัวเองแน่ ส่วนแม่ทัพคังเองก็ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือคำสั่งของพระพันปีเลย ดังนั้นก็เหลือแค่คิมชียังคนเดียว เพราะเค้าเป็นคนที่มักจะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความรุนแรงอยู่เสมอ อย่างในคดีกบฏครั้งก่อน เค้าก็คิดจะประหารขุนนางให้หมดทุกคนรวมทั้งพระนางยอนฮึงด้วย โดยไม่ยอมผ่อนปรนเลย ครั้งสุดท้าย ที่ผู้ใหญ่บ้านเห็น องค์ชายคองจูอยู่กับผู้หญิงคนนึงน่ะ ข้า..สงสัยว่าผู้หญิงคนนั้น จะเป็นซาอิลลาลูกน้องคิมชียัง” กัมชัน กล่าว
“แต่ว่าท่านยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอน”
“ใช่แล้วขอรับ เรื่องนี้เป็นแค่ความรู้สึกของข้าน่ะ”
“ถ้างั้น…เรื่องนี้ นอกจากข้าแล้ว ท่านได้พูดกับใครรึเปล่า?”
“ไม่ได้บอกใคร ข้าเพิ่งจะบอกเรื่องนี้กับท่านคนเดียว”
“ถ้างั้น ก็ปล่อยมันไปเถอะ”
“หะ ท่านอำมาตย์”
“ท่านลองคิดดูให้ดีสิ ตอนนี้เราต้องให้การสนับสนุนพระพันปี ท่านจำเป็นต้องช่วยพระองค์ สร้างบ้านเมืองนี้ให้แข็งแกร่ง ชี่ตันจะต้องยกทัพมาอีกแน่ ข้ารู้ ว่าพวกมันจะต้องยกทัพกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่า จะเป็นพรุ่งนี้หรือว่าอีกสิบปี แต่พวกมันต้องยกมาแน่ ถ้าพวกเรายังไม่เตรียมประเทศให้แข็งแกร่ง โครยอ จะต้องถูกรุกรานและถูกย่ำยีอีก ท่านจะต้องร่วมแรงร่วมใจ ยับยั้งไม่ให้มันเกิดได้ แค่ก ๆๆ” ซอฮุย กล่าว
“แต่ว่า ถ้าหากความจริงถูกปิดเอาไว้ องค์ชายคองจูก็คงไม่มีวันจะตายตาหลับได้แน่”
“ข้ารู้ว่าท่านผู้ช่วยกับองค์ชายคองจูน่ะ..เป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่ถ้าคิดจะเปิดโปงเรื่องราวในตอนนี้ ก็รังแต่จะสร้างความสับสนขึ้น แถมคงยากจะพิสูจน์ได้ว่าคิมชียัง มีความผิดจริง ๆ จำไว้ว่าต้องให้ผลประโยชน์ของประเทศมาเป็นที่หนึ่ง และถ้าหากท่านเจ้ากรมคิมชียังเป็น คนที่มีอันตรายจริงละก็ ในท้ายที่สุด เค้าก็จะเผยโฉมหน้าออกมาเอง และท่านก็จะมีโอกาสได้แก้แค้นให้องค์ชายคองจู ขอให้ท่านช่วยอดทนรอสักพักก่อน” ซออุย กล่าว จากนั้นทหารเข้ามารายงานว่าพระพันปีชอนชูเสด็จมา
อ้างอิง : เดลินิวส์