โรคลมพิษ หนึ่งในกลุ่มอาการของภูมิแพ้ ผิวหนังบริเวณที่เป็นลมพิษจะนูน บวม และแดงคล้ายถูกยุงหรือมดกัด มีขนาดที่แตกต่างกัน บ้างก็เป็นแค่จุดเล็กๆ บ้างก็เป็นปื้นแดงขนาดใหญ่ ลมพิษมาพร้อมอาการคัน ว่ากันว่า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร้อยละ 15-25 ต้องเคยเป็นลมพิษอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต

13 สาเหตุเกิด ‘ลมพิษ’ แค่สั่นก็คันได้

ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่จะคิดว่า คนเป็นภูมิแพ้ก็จะเป็นลมพิษ เหมือนเป็นของคู่กัน ซึ่งจัดเป็นสาเหตุในภาพกว้าง แต่สาเหตุที่ระบุโดยละเอียดอาจยังไม่ค่อยมีใครรู้ว่า สาเหตุของผื่นลมพิษที่พบได้บ่อยมีอยู่ 13 ข้อด้วยกัน

เริ่มจากสาเหตุที่คาดเดากันไม่ยาก 

1. ‘อาหาร’ อาจเป็นเพราะแพ้ตัวอาหารเองหรือแพ้สารพิษของสีผสมอาหาร สารกันบูด เครื่องเทศ แบคทีเรียหรือเชื้อราในอาหาร ที่พบว่ากินแล้วแพ้จนเกิดลมพิษบ่อยๆ มีหลายอย่าง อาทิ อาหารทะเล ของหมักดอง อาหารกระป๋อง ถั่ว เกาลัด แอลกอฮอล์ เนย ยีสต์ ไส้กรอก และนม

2.‘ยา’ ก็ยังเป็นต้นตอให้เกิดลมพิษ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนิซิลิน ยาแก้ไข้แก้ปวด อย่าง แอสไพริน กลุ่มยาลดความดัน ลดไขมัน รวมถึงยารักษาโรคกระเพาะอาหาร ยากันชัก อย่างไรก็ตามสาเหตุในข้อนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับอาการแพ้ยานั่นเอง

3.สาเหตุในกลุ่มที่คาดเดาได้ยังมีอีกข้อ คือ เป็นลมพิษเพราะ ‘แมลงกัด’ เช่น ยุง หมัด เหา เรือด ไร โลน และแมลงบิน

4.ต่อไปมารู้สาเหตุที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้เกิดผื่นลมพิษกันบ้าง เริ่มต้นด้วย ‘แรงสั่นสะเทือน’ จากกิจกรรมที่ทำ เช่น วิ่ง ใช้สว่าน ใช้เครื่องตัดหญ้า ใช้เครื่องสั่นสะเทือนลดไขมัน โดยเมื่อผิวหนังสั่น ผื่นลมพิษก็จะปรากฏขึ้นมา

5.ตามด้วย ‘น้ำ’ ที่สัมผัสกับผิวหนัง ไม่ว่าจะจืดหรือเค็ม ร้อนหรือเย็น เมื่อสัมผัสกับผิวก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดลมพิษ โดยส่วนใหญ่คนที่เป็นลมพิษด้วยสาเหตุนี้จะเป็นหลังอาบน้ำเสร็จ

6.ไม่น่าเชื่อว่า ‘แสงแดด’ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งด้วย โดยหลังผิวหนังถูกแดดก็จะเป็นลมพิษ บางรายที่รุนแรงอาจมีอาการช็อค หมดสติเกิดขึ้นด้วย

7.ยังมีเรื่องของ ‘ความร้อน’ จากอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นหลังออกกำลังกาย อาบน้ำแร่ อบซาวน่า หรือกินอาหารรสเผ็ด

8.ในทางตรงกันข้าม ‘ความเย็น’ ก็เป็นสาเหตุอีกข้อด้วย เช่น หลังจากผิวหนังสัมผัสกับอาการหนาวเย็น หรือน้ำเย็น น้ำแข็ง มักมีอาการปวดศีรษะ หนาวสั่น หัวใจเต้นเร็ว และท้องเสียร่วมด้วย

9.นอกจากนี้ ‘การติดเชื้อไวรัส’ ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง เช่น เชื้อหวัด ไวรัสตับอักเสบ หรือเอช.ไอ.วี. เหล่านี้มักเป็นต้อตอของลมพิษเรื้อรัง

10.หลายๆ คน อาจไม่รู้มาก่อนว่า ‘การกดทับ’ ลักษณะที่ผิวหนังถูกกดหรือรัดแน่นอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้เกิดลมพิษได้ เห็นกันบ่อยๆ เช่น ผื่นตามขอบชุดชั้นใน

11.รวมไปถึง ‘การสัมผัส’ กับสิ่งของต่างๆ ที่ไม่สะอาดหรือมีสารเคมีปนเปื้อน เช่น ยาง โลหะ ฟอร์มาลีน ยาฆ่าแมลง

12. ‘ฮอร์โมน’ ซึ่งแปรปรวนเมื่อมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ วัยทอง หรือการได้รับฮอร์โมนเพิ่ม

13. ปิดท้ายที่ ‘ภาวะเครียด’ ที่ปลุกลมพิษให้ตื่นขึ้นมาเป็นผื่นอาละวาดให้คันได้

อย่างไรก็ตาม ผื่นลมพิษจะยุบและจางหายกลับเป็นผิวปกติได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ถ้านานกว่านั้นแล้วยังไม่หายหรือทุเลาลงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการให้ละเอียด.

อ้างอิง : เดลินิวส์