อาจารย์สอนยูโดชาวญี่ปุ่น อายุปูนปัจฉิมวัยคนหนึ่ง
ชวนลูกศิษย์หนุ่มชาวอเมริกันเดินทอดน่องไปตามชายหาดยามเย็น
ช่วงหนึ่งของการสนทนา อาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นสองเส้นคู่ขนานลงไปบนผืนทรายขาวละเอียด
เส้นหนึ่งยาวประมาณ 5 ฟุต อีกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 3 ฟุต

“เธอลองทำให้เส้นที่ยาว 3 ฟุต ยาวกว่าเส้นที่ยาว 5
ฟุตให้อาจารย์ดูหน่อยสิ”
เสียงอาจารย์บอกเป็นเชิงท้าทายอยู่ในที

ลูกศิษย์อเมริกันหยุดคิด
พินิจเส้นทั้งสองอยู่ครู่หนึ่งก็เผยยิ้มที่ริมฝีปากเหมือนค้นพบคำตอบ

เธอบรรจงใช้เท้าข้างหนึ่งค่อยๆ
ลบรอยเส้นตรงที่ยาวประมาณ 5
ฟุตนั้นให้สั้นลงจนเหลือนิดเดียว
โดยวิธีนี้เส้นที่ยาวราว 3 ฟุตจึงโดดเด่นขึ้นมาแทน
ลบเสร็จเธอเงยหน้าสบตาอาจารย์พลางขอความเห็น

“เช่นนี้ ใช้ได้หรือยังครับ”

ผู้เป็นอาจารย์ใช้ไม้เท้าเคาะหัวเธอเบาๆ
หนึ่งทีก่อนบอกว่า

“ใช้วิธีนี้ ชีวิตเธอก็มีแต่จะล้มเหลว รู้ไหม?

คนที่คิดจะยกตัวเองให้สูงขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งนั้น
ไม่สู้ฉลาดเลย ทางที่ดี จงยกตัวเองขึ้น
แต่อย่าลดคนอื่นลง”

ว่าแล้วอาจารย์ก็ขีดเส้นทั้งสองใหม่
แล้วสาธิตให้ดูโดยการปล่อยเส้นที่ยาว 5 ฟุตไว้อย่างเดิม
แต่ขีดเส้นที่ยาว 3 ฟุตให้ยาวขึ้นเป็น 10 ฟุต
ฝ่ายลูกศิษย์ยังคงกังขา

“คู่แข่งของเธอ ไม่ใช่ศัตรู แต่คือครูของเธอ
และเขาคือคนสำคัญที่จะทำให้เธอได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม

เธอลองคิดดู
หากไร้เสียซึ่งคู่แข่งเธอจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำงานขนาดไหน

ไม่มีอัปลักษณ์ เธอจะรู้จักความสวยงามได้อย่างไร

คู่แข่งขันของเรายิ่งเก่ง ยิ่งฉลาดล้ำ
ก็จะทำให้เรารู้จักขยับตัวเองขึ้นไปให้สูงส่งยิ่งขึ้น

นักสู้ที่ดีนั้น เขายืนหยัดอยู่ในสังเวียนได้
เพราะมีคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็ง
คู่ต่อสู้ที่อ่อนแออาจทำให้เราเป็นผู้ชนะ
แต่ชัยชนะนั้นมักไม่ยืนยง

คนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยการฆ่าน้อง
ฟ้องนายและขายเพื่อน ถึงแม้จะทำได้สำเร็จ
แต่นั่นก็เป็นความสำเร็จที่ปราศจากเกียรติคุณ
ไม่อาจเอ่ยอ้างได้อย่างเต็มภาคภูมิ

การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรมกับการเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยปล่อยให้คนอื่นได้ก้าวไปตามวิถีทางของเขาอย่างเสรีนั้น
มีผลลัพธ์ต่างกันเพียงไร

“การเลื่อนตัวเองขี้น พร้อมกับลดคนอื่นลง
เธออาจชนะแต่ก็มีศัตรูเป็นของแถม

“การเลื่อนตัวเองขึ้นแต่ไม่ลดคนอื่นลง
เธออาจเป็นผู้ชนะพร้อมกับมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้นมากมาย

วิธีไหนจะดีกว่ากัน?”